แจ้งปิดปรับปรุงระบบรูดเต็มด้วยบัตรเครดิตกรุงศรีชั่วคราว ในวันวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2568 เวลา 20:00 น. ถึง วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568 เวลา 05:00 น. ท่านจะไม่สามารถชำระเงินแบบเต็มจำนวนผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า และบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี ได้ชั่วคราวเนื่องจากการปิดปรับปรุงระบบของธนาคาร ทั้งนี้ ท่านยังสามารถเลือกชำระเงินผ่านช่องทางอื่นได้ตามปกติ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้

เครื่องซักผ้าฝาหน้า VS เครื่องซักผ้าฝาบน แบบไหนดี รู้ก่อนซื้อ

เครื่องซักผ้าฝาหน้า VS เครื่องซักผ้าฝาบน แบบไหนดี รู้ก่อนซื้อ

นอกเหนือจากการเลือกซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อที่ดี โดนใจ และถูกใจคนใช้งานแล้ว อีกหนึ่งปัญหาระดับชาติของพ่อบ้านแม่บ้านก็คือ การตัดสินใจไม่ได้ว่า ระหว่าง เครื่องซักผ้าฝาหน้า และ เครื่องซักผ้าฝาบน ควรจะเลือกใช้แบบไหนถึงจะดีที่สุด วันนี้เรามาหาคำตอบว่า เครื่องซักผ้าฝาหน้า vs ฝาบน แบบไหนที่ใช้แล้วดี ประหยัดน้ำ ซักผ้าได้สะอาด ตอบโจทย์มากที่สุด รวมไปถึง ข้อดี - ข้อเสีย ของเครื่องซักผ้าทั้งสองแบบ สรุปจบง่าย ๆ ในบทความเดียว !! เครื่องซักผ้าฝาหน้า

ความต่างของเครื่องซักผ้าระหว่างแบบฝาหน้าและฝาบน ไม่ใช่แค่ลักษณะของถังซักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำงาน การประหยัดน้ำและไฟด้วยเช่นกัน เครื่องซักผ้าฝาหน้า

เครื่องซักผ้าแบบฝาบน

สำหรับ เครื่องซักผ้าฝาบน ถือว่าเป็นเครื่องซักผ้าแบบแรก ๆ ที่ถูกใช้งานมาก่อนเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า โดยวิธีการใช้งานจะใส่ผ้าจากด้านบน ตัวถังเป็นแบบตั้งตรง ซึ่งเครื่องซักผ้าแบบฝาบนสามารถแบ่งออกได้ 2 รูปแบบ คือ

1. เครื่องซักผ้าแบบฝาบน ถังคู่

เป็นเครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ โดยจะมี 2 ถังอยู่ในเครื่องเดียวกัน คือ ถังซักผ้าและถังปั่นหมาด ลักษณะการทำงานคือ การหมุนถังซักจากด้านบนสู่ด้านล่าง ทำให้ผ้าพันกันได้ง่าย ผ้ายับ และเมื่อซักผ้าเสร็จแล้วก็ต้องย้ายผ้ามาใส่ถังปั่นหมาดเอง ซึ่งถ้าหากจัดแนวผ้าไม่ดีเครื่องจะสั่นและมีเสียงดัง ต้องวางผ้าใหม่เท่านั้นถึงจะทำงานต่อได้ โดยเครื่องซักผ้าแบบถังคู่จะมีราคาค่อนข้างถูก แต่ใช้งานทั้งซักและปั่นหมาดไปพร้อม ๆ กันได้

2. เครื่องซักผ้าฝาบน ถังเดี่ยว

เรียกว่าเป็นเครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติ นั่นก็คือ การซักและปั่นหมาดในถังเดียวกัน ตัวถังเป็นรูปทรงกระบอก ทำจากสเตนเลส ลักษณะการทำงานคือ การหมุนแบบสลับทิศทาง เพื่อให้ผ้าตีกับแกนซัก ทำให้ขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่การใช้งานควรแยกประเภทผ้าให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นอาจไปพันกับแกนซักจนผ้าเสียหาย หรือเสียรูปทรงได้

เครื่องซักผ้าฝาหน้า

เป็นที่นิยมสูงในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะตามร้านซักผ้าและจุดบริการซักผ้าแบบ 24 ชม. ตัวถังจะคล้ายกับเครื่องซักผ้าแบบฝาบน แต่เปลี่ยนฝาจากด้านบนมาอยู่ด้านหน้าแทน การหมุนของตัวถังจะใช้ลักษณะหมุนแบบวงล้อหรือแนวนอน ที่สลับกันไปมา เพื่อให้ผ้าขนานไปกับพื้น มีตัวแกนซักยกผ้าขึ้นบนแล้วทิ้งตัวลงด้านล่าง เป็นเครื่องซักผ้าที่สามารถเลือกซักได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น ระบบการใช้งานช่วยถนอมผ้าได้ดี และไม่มีปัญหาผ้าพันกันเป็นก้อน ทำให้ผ้าไม่ยับหลังตากแห้งเหมือนเครื่องซักผ้าแบบฝาบน

เครื่องซักผ้าฝาหน้า vs ฝาบน

เทียบการใช้งาน ระหว่าง เครื่องซักผ้าฝาหน้า vs แบบฝาบน

1. ความสามารถในการซัก

ถ้าหากเทียบเรื่องความสามารถในการซักผ้าแล้ว เครื่องซักผ้าฝาบน จะมีข้อจำกัดคือ ซักคราบสกปรกได้ไม่เต็ม 100% เพราะใช้วิธีการปั่นผ้าด้วยการหมุนใบพัดจากด้านล่างสลับซ้าย - ขวา  ทำให้กำลังหมุนน้อยกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน เครื่องซักผ้าฝาหน้า สามารถซักผ้าได้ทั้งแบบน้ำร้อนและน้ำเย็น จึงทำให้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้โดยตรง ผ้าสะอาดมากขึ้น ประสิทธิภาพของการปั่นผ้าดีกว่าพอสมควร

2. ระยะเวลาในการทำงาน

 โดยเฉลี่ยแล้ว เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าจะใช้เวลานานกว่าแบบฝาบน 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น หากบ้านไหนมีสมาชิกเยอะ มีผ้าที่ต้องซักครั้งละมาก ๆ อาจจะต้องเสียเวลามากกว่าหากใช้แบบฝาหน้า เพราะต้องซักหลาย ๆ รอบ เครื่องซักผ้าฝาหน้า

3. การถนอมเนื้อผ้า

 สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดของการใช้งานระหว่าง เครื่องซักผ้าฝาหน้า vs ฝาบน ก็คือ การถนอมเนื้อผ้า ที่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าทำได้ดีกว่า ด้วยการหมุนแบบแนวนอนสลับกันไปมา เกิดการเสียดสีกันระหว่างตัวผ้า น้ำไหลผ่านเข้าออกเนื้อผ้าได้ดี การถนอมเนื้อผ้าจึงดีกว่า ผ้าไม่เป็นขุย ทั้งยังไม่จับตัวเป็นก้อน

4. การปั่นหมาด

สำหรับการปั่นหมาดระหว่าง เครื่องซักผ้าฝาหน้า vs ฝาบน ต้องยอมรับเลยว่า เครื่องซักผ้าแบบฝาบนทำออกมาได้ดีกว่าพอสมควร เวลาปั่นผ้าแล้วผ้าจะแห้งได้เร็วกว่า ในขณะที่แบบฝาหน้าจะยังมีความหมาดอยู่ ยิ่งถ้าในช่วงหน้าฝนอาจจะต้องใช้คู่กับเครื่องอบผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ

5. เสียบรบกวน

 ความต่างอีกอย่างหนึ่งของการทำงานจากเครื่องซักผ้าทั้ง 2 แบบ ก็คือ เรื่องของเสียงรบกวน การทำงานของเครื่องซักผ้าแบบฝาบน จะใช้วิธีการปั่นผ้าจากด้านล่าง ยิ่งถ้าใช้แบบถังคู่ด้วยแล้ว เสียงรบกวนค่อนข้างชัดเจน ในขณะที่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า จะมีเสียงการทำงานที่เงียบกว่า ด้วยการทำงานแบบถนอมเนื้อผ้า เพราะฉะนั้น ถ้าวัดประสิทธิภาพการทำงานและเรื่องเสียงรบกวน ถือว่าแบบฝาหน้าทำออกมาได้ดีอย่างเห็นได้ชัด

เครื่องซักผ้าฝาหน้า vs ฝาบน

ข้อดี - ข้อเสีย ของเครื่องซักผ้าทั้งสองประเภท

1. เครื่องซักผ้าฝาหน้า

ข้อดี

  • ประหยัดน้ำมากกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน
  • ประหยัดไฟมากกว่า
  • ซักผ้าได้สะอาด
  • ผ้ายับน้อย และไม่พันกันเป็นก้อน
  • ใช้ได้ทั้งน้ำร้อนและเย็น กำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ดี

ข้อเสีย

  • ราคาค่อนข้างสูง เพราะมีฟังก์ชันการใช้งานให้เลือกหลายแบบ
  • กินพื้นที่มากกว่า เนื่องจากต้องเปิดฝาด้านหน้า ต้องมีพื้นที่ในการติดตั้ง
  • ใช้เวลาซักมากกว่าอย่างชัดเจน ตั้งแต่ 30 นาที - 1 ชั่วโมง
  • ความจุผ้าน้อย อาจไม่เหมาะกับบ้านที่มีผ้าในปริมาณมาก
  • ขอบยางกันน้ำที่ฝาประตูเครื่อง มักเกิดปัญหาราดำ
  • หากใช้ฟังก์ชันปั่นหมาด เสียงจะดังมากกว่าปกติ แต่จะไม่เท่ากับเครื่องฝาบน

2. เครื่องซักผ้าแบบฝาบน

ข้อดี

  • ราคาค่อนข้างถูก เหมาะสำหรับคนงบน้อย
  • กินพื้นที่ในการใช้งานน้อยกว่า เพราะเปิดจากด้านบน
  • ใช้เวลาการทำงานน้อย
  • ความจุเยอะ ตอบโจทย์บ้านใหญ่ที่มีผ้าในปริมาณมาก
  • การปั่นหมาดแห้งเร็ว

ข้อเสีย

  • เปลืองน้ำมากกว่าแบบฝาหน้าในการซักผ้า
  • กินไฟมากกว่า (ยกเว้นเครื่องที่ใช้ระบบ Inverter)
  • ขจัดคราบต่าง ๆ ได้น้อยกว่า
  • ผ้ายับมากหลังซัก เพราะโหมดการใช้งานไม่ได้ถนอมผ้า ทำให้ผ้าพันกัน

เครื่องซักผ้า

Tips เลือกเครื่องซักผ้า โดยวัดจากขนาดครอบครัว

การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าสำหรับการใช้งานในครอบครัว อย่างแรกคือการวัดจากจำนวนสมาชิกภายในบ้าน ปริมาณผ้าที่ต้องซัก รวมไปถึงการใช้งานว่ามีความถี่มากน้อยแค่ไหน เพื่อช่วยให้เลือกเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมได้ ไม่เปลืองน้ำและไฟมากเกินไปโดยใช่เหตุ แนะนำเครื่องซักผ้าว่าควรจะเลือกซื้อความจุเท่าไหร่แบบคร่าว ๆ ได้แก่

  • 2 – 3 คน ความจุถังซัก 6 – 8 กิโลกรัม
  • 4 – 5 คน ความจุถังซัก 8 – 11 กิโลกรัม
  • 6 คนขึ้นไป ความจุควรมากกว่า 11 กิโลกรัมขึ้นไป

นอกจากนี้ ควรตรวจเช็กเรื่องพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าด้วย ว่าจะใช้งานบริเวณไหน อย่างบางบ้าน ก็อาจจะติดตั้งเอาไว้บริเวณหน้าห้องน้ำ บางบ้านก็อาจจะติดตั้งเอาไว้นอกบ้าน เพื่อให้อยู่ใกล้กับบริเวณที่ใช้ตากผ้า ทั้งนี้ อย่าลืมว่าหากจะใช้ เครื่องซักผ้าฝาหน้า ควรใช้ในบริเวณที่มีความกว้างที่เพียงพอ เพราะเครื่องซักผ้าจะกินพื้นที่มากกว่าแบบฝาบน ต้องมีพื้นที่สำหรับการเปิด - ปิด บานประตู

จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการแนะนำและเปรียบเทียบระหว่าง เครื่องซักผ้าฝาหน้า vs ฝาบน ทั้งในแง่ของการใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย รวมไปถึงวิธีการเลือกซื้อ ทั้ง เครื่องซักผ้าฝาหน้า และ เครื่องซักผ้าฝาบน เพื่อให้พ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้าดี ๆ ไปใช้งาน สามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะความเหมาะสม ความทนทาน รวมถึงงบประมาณในกระเป๋าอีกด้วย สามารถมาช้อปเครื่องซักผ้าได้ที่โฮมโปรสาขาใกล้บ้าน หรือช้อปออนไลน์ง่าย ๆ ได้ 24 ชั่วโมงทาง www.homepro.co.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ HomePro Call Center โทร 1284


ปัญหาเรื่องบ้านที่น่าสนใจ

เพิ่มสินค้าจำนวน 
{product_name}
จำนวน 1
สินค้าแนะนำ