ไดร์เป่าผม มีกี่แบบ ควรเลือกซื้ออย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน

ไดร์เป่าผม มีกี่แบบ ควรเลือกซื้ออย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน
สาว ๆ ยุคใหม่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไดร์เป่าผม คืออุปกรณ์ติดโต๊ะเครื่องแป้งที่สำคัญไม่แพ้การเลือกใช้สกินแคร์ เพราะการใช้ไดร์นอกจากจะช่วยดูแลเส้นผมแล้ว ยังช่วยจัดแต่งทรงผมได้อย่างที่ใจต้องการ ซึ่งการเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว ยังช่วยประหยัดเวลาได้ดี โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีผมหนาและยาว ที่ต้องแข่งขันกับเวลาในชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งนี้ HomeGuru จะพาสาว ๆ มาเปิดเทคนิคง่าย ๆ ของการเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมเสียงเบา ที่ใช้ดี แถมเป่าแล้วผมแห้งเร็วทันใจแน่นอน  ไดร์เป่าผม โฮมโปร รวมเทคนิคและการเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว ให้ตอบโจทย์การใช้งาน เหมาะกับทุกสภาพผมของสาว ๆ ยุคใหม่ ที่สำคัญคือ ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย 1. ประเภทของ ไดร์เป่าผม ที่สาว ๆ ควรรู้ 2. ความแรงของไดร์ที่เหมาะกับแต่ละสภาพผม 3. วิธีเลือกซื้อ ไดร์เป่าผม ให้ถูกใจ ตอบโจทย์การใช้งาน 

ประเภทของ ไดร์เป่าผม ที่สาว ๆ ควรรู้

ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่สามารถปรับระดับความแรง และลมในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังมีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับเส้นผมแต่ละแบบด้วยเช่นกัน โดยสามารถแยกประเภทได้ทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ • ระบบไอออนิก เหมาะสำหรับผมหนา หยิก และชี้ฟู สามารถใช้งานได้โดยไม่ทำให้ผมแห้งเสีย  • ระบบเซรามิก เหมาะสำหรับผมที่ลีบและแบน โดยพื้นฐานเป็นคนที่ผมตรงอยู่แล้ว   • ทัวร์มาลีน เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาให้เร่งการทำงาน ช่วยทำให้ผมแห้งเร็ว และมีสุขภาพดีขึ้น  • ไทเทเนียม นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ผมแห้งได้เร็วและไวที่สุด มีความแรงสูง แต่อาจจะต้องใช้ไดร์ที่มีเทคโนโลยีอื่น ๆ ร่วมด้วย เพราะไดร์ประเภทนี้มีความร้อนพอสมควร เช่น ฟังก์ชันการดูแลและบำรุงเส้นผม   ไดร์เป่าผม

ความแรงของไดร์ที่เหมาะกับแต่ละสภาพผม  

โดยความแรงของไดร์ ให้สังเกตที่กำลังไฟของตัวเครื่อง ซึ่งกำลังไฟที่เหมาะกับสภาพผมแต่ละแบบให้คร่าว ๆ ดังนี้  • 1,200 วัตต์ เหมาะสำหรับผมเส้นเล็กและบาง  • 1,300 – 1,800 วัตต์ สำหรับสภาพผมทั่ว ๆ ไป  • 1,800 วัตต์ขึ้นไป เหมาะสำหรับสภาพผมที่หนาและหยิกมาก และต้องใช้เวลาในการเป่านาน

วิธีเลือกซื้อ ไดร์เป่าผม ให้ถูกใจ ตอบโจทย์การใช้งาน

1. ตัวเครื่องมีขนาดพอเหมาะ น้ำหนักเบา

ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อไดร์เป่าผม สิ่งสำคัญคือ การทดลองจับและดูลักษณะของตัวเครื่องว่าเหมาะสมสำหรับการใช้งานและจับถนัดมือหรือไม่ เพราะขนาดของตัวเครื่องมีผลต่อการใช้งานด้วยเช่นกัน หากหนักมากเกินไป หรือด้ามจับไม่พอดีมือ ก็อาจทำให้ยุ่งยากต่อการใช้งาน ต่อให้ใช้ ไดร์เป่าผมเสียงเบา ก็จะรู้สึกหนักและเมื่อยแขน  นอกจากนี้ HomeGuru ขอแนะนำคุณสาว ๆ ว่า ควรเลือกซื้อไดร์ที่มีน้ำหนักเบา พับเก็บได้ สามารถพกพาได้สะดวก โดยเฉพาะเวลาเดินทางออกทริป เพราะที่พักบางที่อาจจะไม่มีไดร์ให้ใช้ 

2. ความแรงของไดร์เป่าผม 

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมเสียงเบา ที่สำคัญพอสมควร เพราะมีผลต่อการใช้งานโดยตรง ซึ่งคุณสามารถลองเสียบปลั๊กและลองเปิดใช้งานดูก่อนว่า มีความแรงมากน้อยแค่ไหน เหมาะกับผมตัวเองหรือไม่ หากคุณเป็นคนที่ผมหนาและยาวมาก ๆ ก็ต้องเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว ที่มีความแรงพอสมควร 

3. ความยาวของสายไฟ 

หลาย ๆ คน อาจจะคิดว่าสายไฟไม่ได้มีปัญหาต่อการใช้งาน และมองข้ามเรื่องนี้ไปโดยปริยาย แต่จริง ๆ แล้ว ความยาวของสายไฟไดร์เป่าผม ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเราต้องเปลี่ยนทิศทางในการใช้งาน ทั้งการเป่าซ้าย-ขวา สลับบนและล่าง หากใช้รุ่นที่สายไฟสั้น และจุดที่เสียบสายไฟอยู่ห่างจากจุดที่เป่าผม ก็อาจเป็นปัญหาและเกิดความลำบากได้  ดังนั้น ให้คุณดูว่าการใช้งานส่วนมากต้องนั่งหรือยืนใช้ จุดที่เสียบปลั๊กอยู่ห่างมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกซื้อและใช้ไดร์ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น  ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว

4. ลมที่ใช้  

โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ไดร์ที่วางขายตามท้องตลาด มีทั้งระบบลมเย็นและลมร้อน บางรุ่นสามารถเลือกประเภทลมได้แต่ปรับความแรงได้น้อย เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อไดร์รุ่นไหน ๆ ก็ตาม ให้ดูก่อนว่าปรับความแรงได้กี่ระดับ สามารถปรับอุณหภูมิความร้อนได้หรือไม่ ไดร์เป่าผมเสียงเบา มากน้อยแค่ไหน เพราะบางรุ่นก็เสียงดังและอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่อยู่ด้วยได้ 

1) ลมร้อน 

เหมาะสำหรับการเป่าเพื่อจัดแต่งทรงผม โดยเฉพาะเวลาที่เป่าผมและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ซึ่งข้อเสียของการใช้ลมร้อนคือ หากใช้ความร้อนมากเกินไป ก็จะทำให้ผมสูญเสียความชุ่มชื้น แห้ง กรอบ และเปราะบาง ซึ่งบางคนก็อาจมีปัญหาเรื่องรังแคได้ด้วย 

2) ลมเย็น 

ใช้สำหรับการจัดแต่งผมให้อยู่ทรง โดยจะใช้ลมเย็นหลังจากที่เป่าผมด้วยลมร้อนจาก ไดร์เป่าผมเสียงเบา ซึ่งข้อดีของการใช้ลมเย็นคือ ทำให้เกล็ดผมปิด ลดการสะสมของแบคทีเรียและเหงื่อได้ด้วย เพราะฉะนั้น การใช้ลมเย็นจึงช่วยทำให้ผมนุ่มสลวย และดูสุขภาพดี ถึงแม้จะผ่านการทำสีหรือใช้สารเคมีมาก่อนก็ตาม นอกจากนี้ ระบบลมของไดร์บางรุ่นก็อาจเป็นประจุลบ ซึ่งค่อนข้างเหมาะสำหรับคนที่เร่งรีบ เพราะนอกจากจะทำให้ผมแห้งเร็วแล้ว ยังช่วยดูแลเส้นผม ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย ทั้งยังกำจัดไฟฟ้าสถิต ช่วยทำให้ผมเรียงตัวสวยและไม่แห้งฟู 

5. การปรับระดับความแรงในการใช้งาน

อีกหนึ่งเทคนิคการเลือกซื้อไดร์ก็คือ การปรับระดับความแรงในการใช้งาน ทั้งความร้อน ความเย็น หรือระดับความแรงของลม ซึ่งการปรับระดับได้ไม่ใช่แค่ความสะดวกในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเลือกความแรงให้ตอบโจทย์กับสภาพผมที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยเฉพาะคู่รักที่อาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งผู้ชายก็สามารถใช้ไดร์ในการเซ็ตผมได้ด้วย เป็นต้น  ไดร์เป่าผม

6. ไดร์เป่าผม ที่ดีต้องเก็บเสียง 

ไม่ว่าจะเลือกซื้อไดร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี หรือความแรงที่ทรงพลังเพียงใด สิ่งสำคัญคือ ต้องเป็น ไดร์เป่าผมเสียงเบา ซึ่งในกรณีที่ไม่ได้ซื้อรุ่นที่เก็บเสียงมา บางทีอาจจะเสียงดัง จนสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่อยู่อาศัยร่วมกันได้ โดยเฉพาะการใช้งานตามคอนโดหรือหอพักที่มีผนังห้องติดกัน ซึ่งบางโครงการอาจจะใช้อิฐมวลเบา ทำให้ผนังห้องค่อนข้างบางกว่าปกติ เวลาทำอะไรที่มีเสียงนิดหน่อยก็ทำให้ห้องข้าง ๆ ได้ยินเสียง หากคุณจะเลือกซื้อไดร์ทั้งที ควรเลือกซื้อรุ่นที่เก็บเสียง ไม่มีเสียงดังเกินไป อาจจะลองทดสอบการใช้งานดูก่อนก็ได้ หรือหากสั่งซื้อทางออนไลน์ ก็ต้องอ่านดูข้อมูลสินค้าให้ละเอียด เพื่อดูว่ามีฟังก์ชันลดเสียงในการทำงานหรือไม่  

7. อุปกรณ์เสริมที่มีให้

อีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญและนำมาตัดสินใจว่า จะเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว รุ่นนั้น ๆ ดีหรือไม่ ก็คือ ออปชั่นและอุปกรณ์เสริมที่มีมาให้ อาทิ หัวเป่าที่มีหลากหลายรูปแบบ ช่วยให้ง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงการหมุนเวียนของอากาศที่แตกต่างกัน  แน่นอนว่า หัวเป่าของไดร์แต่ละรุ่นยังช่วยให้คุณจัดแต่งทรงผมได้ง่ายมากขึ้น เพราะฉะนั้น หากต้องการเซ็ตผมให้ได้ทรงที่ต้องการและดูสุขภาพดี ควรเลือกซื้อรุ่นที่มีอุปกรณ์เสริมให้ และตอบโจทย์การใช้งาน ไดร์เป่าผม

8. ราคาของ ไดร์เป่าผม

สุดท้ายแล้ว การจะเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว รุ่นไหน ๆ ก็ตาม ราคาคือสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ราคาของสินค้าต่างก็มีผลต่อออปชั่น และประสิทธิภาพในการใช้งานของสินค้า ดังนั้น หากคุณต้องการรุ่นที่มีฟังก์ชันหลากหลาย ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี และมีเทคโนโลยีที่ช่วยดูแลเส้นผม ก็อาจจะต้องเลือกซื้อรุ่นที่มีราคาแพงขึ้นมาจากไดร์ทั่ว ๆ ไป
ไดร์เป่าผม PHILIPS ไดร์เป่าผม PANASONIC ไดร์เป่าผม LESASHA
การเลือกซื้อ ไดร์เป่าผม ที่ทาง HomeGuru รวบรวมมาให้สาว ๆ ในวันนี้ บอกเลยว่าครบครันทุกทริกเด็ดโดนใจ การันตีว่าคุณจะสามารถเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมเสียงเบา ที่ตอบโจทย์การใช้งาน ประหยัดเวลาในการเป่าผม ทั้งนี้ หากคุณอยากจะเลือกซื้อ ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว รุ่นยอดฮิต ราคาสบายกระเป๋า สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ HomePro ทุกสาขาหรือทางเว็บไซต์ออนไลน์ 

ปัญหาเรื่องบ้านที่น่าสนใจ