ผนังไม้และพื้นไม้เทียม ให้สวยเหมือนไม้ธรรมชาติ ง่ายนิดเดียว

ผนังไม้และพื้นไม้เทียม ให้สวยเหมือนไม้ธรรมชาติ ง่ายนิดเดียว

การสร้างบ้านในปัจจุบัน มีการเลือกใช้ไม้เทียมแทนไม้จริงอย่างแพร่หลาย เนื่องจากหาง่าย มีราคาถูกกว่า และสามารถป้องกันปลวก รวมถึงพวกแมลงได้เป็นอย่างดี ด้านวิธีการดูแลรักษาก็ง่ายกว่า ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงไม่น่าแปลกที่หลายคนจะหันไปเลือกใช้ไม้เทียมแทนไม้จริง ว่าแต่วิธีการทาสีไม้เทียมต้องเลือกใช้สีแบบใด และทาแบบไหนเพื่อให้ได้ผิวที่สวยเนียน ติดตามกันได้เลยในบทความนี้

ไม้เทียมที่ขายทั่วไปในท้องตลาด มีหลากหลายประเภท ได้แก่

• ไม้เทียมไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement)

• ไม้เทียมแบบไม้อัดซีเมนต์ (Wood Cement Board)

• ไม้เทียม WPC (Wood Plastic Composite)

• ไม้เทียมแบบ MDF (Medium-Density Fiberboard)

ซึ่งมีทั้งรุ่นที่ทำสีสำเร็จมาจากโรงงาน และรุ่นที่ทำมาเพื่อให้สามารถเลือกทาสีตามที่เราต้องการได้ ดังนั้น ไม้เทียมที่ยังไม่ได้ทาสี หากต้องการให้ไม้เทียมมีความคงทน สีสันสวยงาม ก็ควรเลือกใช้สีทาไม้เทียมที่มีคุณภาพดีควบคู่กันไปด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยป้องกันน้ำ แสงแดด เชื้อรา และตะไคร่น้ำ ทำให้ส่วนของบ้านที่มีการใช้ไม้เทียมนั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และสวยงามในระยะยาว

เลือกสีทาไม้เทียมแบบไหนดี 

การเลือกสีทาไม้เทียมให้ได้พื้นผิวตามที่ต้องการ จำขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ประเภทสี รวมถึงความชำนาญของผู้ทา ซึ่งจะส่งผลต่อความสวยงามของพื้นผิวไม้เทียมด้วย ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่ 2 ประเภท 

1. สีโปร่งแสง หรือสีย้อมไม้เทียม กรณีต้องการทำไม้เทียมให้เหมือนไม้ธรรมชาติ สามารถสร้างลายเส้นไม้ เน้นสีเข้มหรืออ่อนได้

2. สีทึบแสง หรือสีทาไม้เทียม กรณีต้องการเปลี่ยนสีไม้เดิมเป็นสีไม้ใหม่ หรือต้องการความสวยเนียน เหมาะกับรูปแบบสไตล์ของบ้านตามที่ต้องการ

และที่สำคัญควรเลือกสีทาไม้หรือสีย้อมไม้เทียมให้ถูกต้องกับประเภทของพื้นที่ที่ต้องการทาด้วย เพื่อการปกป้อง และความทนทานต่อแรงกระแทกที่แตกต่างกัน โดยจะแบ่งประเภทของพื้นที่ ดังนี้ 

1.สีสำหรับงานผนัง 

2.สีสำหรับงานพื้น

ขั้นตอนการใช้สีทาไม้เทียม

การทาสีไม้เทียมมีขั้นตอนเฉพาะตัวที่แตกต่างไปจากการทาสีบนผนัง หรือทาสีทั่วไปอยู่มาก หากคุณรู้และเข้าใจในวิธีการทาสีไม้ประเภทนี้แล้ว จะทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาได้สีเนียนสวย และสีติดกับผิวไม้ได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น แต่ขั้นตอนการทาสีทาไม้เทียมบนพื้นหรือผนังนั้นต้องทำอย่างไร ไปดูกันได้เลย

1. อุดโป๊รอยแตกและตำหนิต่างๆบนพื้นผิว แนะนำใช้ ทีโอเอ อะคริลิค ซีลแลนท์ หรือ ทีโอเอ อะคริลิค ฟิลเลอร์ ในการอุดโป๊

2. ขัดไม้ให้ผิวหยาบ เพื่อทำให้สีที่ทาสามารถยึดติดกับวัตถุได้เป็นอย่างดี

3. เมื่อทำการขัดผิวไม้เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการปัดฝุ่นออก เพราะถ้าหากทาสีทับขณะที่มีฝุ่นจะทำให้สีไม่ติดทนเท่าที่ควร

4. ทาสีรองพื้นไม้เทียม เพื่อเพิ่มการยึดเกาะให้สีทับหน้าและพื้นผิว และป้องกันด่างที่อาจเกิดจากไม้เทียมไฟเบอร์ซีเมนต์ โดยสีรองพื้นจะให้ผลของสีทับหน้าที่แตกต่างกันตามชนิดรองพื้นที่เลือก 

• สีรองพื้น สูตรน้ำมัน : ฟิล์มใสบาง สามารถใช้งานได้ทันที หรือหากต้องการผสมใช้ทินเนอร์ BARCO #AAA 0-15%

• สีรองพื้น สูตรน้ำ : ฟิล์มสีเทา หรือสีครีม สามารถใช้งานได้ทันที หรือหากต้องการผสมใช้น้ำ 0-15%

จากนั้นรอให้แห้งประมาณ 60 นาที เพื่อทาสีทับหน้าในลำดับต่อไป

5. ทาสีทับหน้า เพื่อความสวยงามทาสีทับด้วยสีที่มีคุณภาพ โดยจะแบ่งออกตามการใช้งานคือ สีทาไม้เทียมผนัง และสีทาพื้นไม้เทียม ก่อนการใช้ด้วยแปรง, ลูกกลิ้ง หรือปืนพ่น จำเป็นต้องผสมน้ำ 5-15%  โดยควรทาอย่างน้อย 2 เที่ยว แต่ละเที่ยวทิ้งให้แห้ง 1-2 ชั่วโมงแล้วค่อยทาทับ

เทคนิคใช้สีทาไม้เทียมให้สวยเหมือนไม้จริง

คาดว่าในตอนนี้ทุกคนน่าจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของไม้เทียม รวมทั้งสีทาไม้เทียมและขั้นตอนการทาสีกันไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ดีคุณสามารถทาสีได้อย่างเรียบเนียน สวยงามมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคนิคที่นำไปปรับใช้กับการทาสีไม้เทียมได้

• เวลาคนสีก่อนใช้งานให้ทำการคนไปทางเดียวกัน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สีเกิดฟอง เพื่อป้องกันการทาสีแล้วทำให้ผิวไม้เทียมไม่เรียบเนียน

• เลือกใช้แปรงขนอ่อน เพราะจะทำให้ทาสีไม้เทียมบริเวณพื้นหรือผนังได้ง่าย และเนื้อสีแนบไปกับผิวไม้

• ควรทาสีโดยลากแปรงยาวไปจนถึงขอบมุมอีกด้าน เพื่อไม่ให้เกิดรอยต่อของแปรงบนผิวไม้

• กรณีต้องใช้แปรงทาต่อเป็นช่วงๆ ให้ทาแล้วยกแปรงตวัดออกตรงช่วงต่อ เพื่อไม่ให้สี ไหลรวมเป็นหนาตรงรอยต่อ เมื่อทาสีต่อกันสีจะได้ไม่เป็นรอยจ้ำๆ

• หากพบว่ามีฟองหรือรอยด่างของสีที่ไม่สวยงาม สามารถใช้กระดาษทรายขัดเพื่อทำให้สีดูเป็นไม้สมจริงมากยิ่งขึ้น

ไม้เทียมที่มีการใช้งานในปัจจุบันมีหลายประเภท และมีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น หากคุณใช้ไม้เทียมในการทำพื้นบ้านก็จำเป็นต้องเลือกสีสำหรับการทาพื้นบ้าน ที่มีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทานต่อการขีดข่วนได้ดีกว่าสีผนัง สำหรับบริเวณผนังเองก็จะมีความโดดเด่นในการรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปมาได้อยู่ตลอด นี่จึงเหตุผลที่ทำไมคุณต้องรู้จักกับไม้เทียมแต่ละประเภทและสีทาไม้เทียม ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกสีที่มีคุณภาพได้มาตรฐานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้พื้นหรือผนังไม้เทียมของคุณดูโดดเด่น สวยงาม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ขอขอบคุณ ภาพและบทความจาก www.toagroup.com


ปัญหาเรื่องบ้านที่น่าสนใจ