ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เรื่องดี๊ดีที่ต้องใส่ใจ

ต้องบอกได้เลยว่า ยุคข้าวยากหมากแพงคือ ยุคที่เราอยู่ในปัจจุบันการประหยัดรายจ่ายจึงเป็นส่วนที่สำคัญ อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด หนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่เราต้องใส่ใจคือ เรื่องพลังงานที่นอกจากต้องประหยัดแล้วควรเลือกใช้อย่างชาญฉลาด ในเรื่องของการเลือกใช้ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ต้องใส่ใจทั้งรูปลักษณ์ คุณสมบัติ ที่สำคัญต้องช่วยประหยัดพลังงานช่วยเซฟเงินในกระเป๋าเราด้วย อย่างนี้ถึงเรียกว่าใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จำเป็นต้องสังเกตุทุกครั้งก่อนซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า’ ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 หรือฉลากเบอร์5 ที่เราเคยได้ยินมาแต่เด็ก ได้ออกฉลากดังกล่าวมาต่อเนื่องถึงปัจจุบันครบ 20 ปีแล้ว ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะฉลากจะบอกข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ละชนิด ทั้งระดับการใช้ไฟฟ้า ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังที่ได้มาตราฐาน โดยฉลากประหยัดไฟจะมีระดับความประหยัดตั้งแต่เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 ซึ่งคือระดับที่ประหยัดไฟมากที่สุด
โดยฉลากจะบอกถึงความน่าเชื่อถือที่รับประกัน การประหยัดไฟฟ้า ของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้ ฉลากเบอร์ 5 ดังกล่าว ให้สังเกตชื่อหน่วยงาน ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นเจ้าของ ฉลากเบอร์ 5 สิ่งที่ให้สังเกตให้แน่ชัดคือ จะมีลายน้ำเป็นสัญลักษณ์รูปโลกุตะระอยู่ในฉลาก ถ้าหากพบว่าไม่มีชื่อขององค์กรทั้ง 2 แห่งรับรอง และไม่มีลายน้ำ ขอให้โปรดแจ้งต่อร้านค้า หรือสามารถแจ้งเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รู้จักฉลากเบอร์ 5 ต้องเลือกให้เป็น
การเลือก เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ได้รับการรับรอง "ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5" จะช่วยเราคำนวณค่าใช้จ่ายโดยประมาณต่อปี ว่า เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ละชนิดมีประสิทธิภาพในการช่วยประหยัดพลังงานได้มากน้อยแค่ไหน แล้วบนฉลากบอกอะไรกับเราบ้าง
  1. ตัวเลขบอกประสิทธิภาพการประหยัดไฟ ตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งประหยัดไฟ
  2. ระบุรุ่นของสินค้า ฉลากต้องมีระบุปีที่ทำการทดสอบค่าพลังงาน
  3. มีระบุประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า
  4. ต้องมีลายน้ำสัญลักษณ์กระทรวงพลังงาน ตรงกลางฉลาก
  5. แสดงตัวเลขการใช้พลังงานไฟฟ้าต่อปีและค่าไฟฟ้าต่อปี ส่วนนี้จะช่วยเปรียบเทียบว่ายี่ห้อไหนประหยัดได้มากกว่ากัน
  6. แสดงหน่วยงานที่กำกับดูแล ด้วยสัญลักษณ์ "การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย" และกระทรวงพลังงานด้วยตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีเขียว
  7. มีข้อมูลสำหรับสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่ด้านล่างฉลาก
*ข้อมูลบนฉลากเหล่านี้ต้องครบถ้วน แน่ใจได้ว่าเป็นฉลากแท้*
วิธีคำนวณประมาณการค่าใช้จ่ายต่อปี
วิธีคำนวณประมาณการค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อความมั่นใจว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราเลือกประหยัดจริง ด้วยวิธีคิดง่ายๆ 
ค่าใช้จ่าย (บาท) = หน่วยพลังงานไฟฟ้า (kWh) × ค่าพลังงานไฟฟ้าต่อหน่วย
หมายเหตุ
  1. กำหนดให้เครื่องปรับอากาศใช้งาน 8 ชั่วโมง/วัน
  2. ค่าพลังงานไฟฟ้าต่อหน่วย = 3.28 บาท/หน่วย
การประมาณการผลการประหยัดค่าใช้จ่าย/ปี
ค่าใช้จ่าย (บาท) = 954.62 kWh × 3.28 บาท =3131.14 บาท
*เลือก เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ช่วยชาติลดการใช้ไฟฟ้ากว่า 53,000 ล้านบาท ลดความต้องการไฟฟ้ากว่า 27,000 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์ 9.87 ล้านตัน
ซึ่งตอนนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร จัดกิจกรรม "ลดไฟหน้าร้อน เปลี่ยน...เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5" หวังกระตุ้นประชาชน "เปลี่ยน" มาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 คาดจะสามารถลดพลังงานไฟฟ้ากว่าปีละ 15.7 ล้านหน่วย หรือ 62 ล้านบาท และลด CO2 ได้ 8 พันตัน
 
บทความอื่นๆ
 
Chat icon