โฮมการ์ด
ศูนย์ช่วยเหลือ
สาขา
เลือกสาขา
เลือกสาขา
จัดส่งสินค้าไปที่
ตำแหน่งของคุณ
ตำแหน่งของคุณ
เลือกสาขา
ตำแหน่งของคุณ
เครื่องฟอกอากาศ PM 2.5 น่าซื้อติดบ้านไว้ ใช้กรองฝุ่นฆ่าเชื้อโรค |
"เครื่องฟอกอากาศ" หรือ "เครื่องฟอกอากาศ PM 2.5" กลายเป็นคำฮิตติดอันดับอีกครั้งในการค้นหาบน Google ตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งไล่เบียดอันดับกับ "หน้ากากกันฝุ่น" หลังบ้านเราประสบปัญหามลภาวะฝุ่นละอองเกินมาตรฐานกระทบต่อสภาวะอากาศทั้งนอกบ้านและในบ้าน "เครื่องกรองอากาศ" จึงเป็น "เครื่องใช้ไฟฟ้า" อีกทางเลือกที่ช่วยปกป้องคุณตั้งแต่ในบ้านเพื่ออากาศสะอาด ปราศจากฝุ่น และเชื้อโรคทั้งหลาย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ควรมีติดบ้านไว้สักเครื่อง เนื่องจากหลายเสียงการันตีใช้แล้วดีต่อสุขภาพ ข้อดีมีขนาดนี้ HomeGuru ขอช่วยแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าเครื่องนี้ให้คุณรู้จักกันมากขึ้น |
เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร ?เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier หรือ Air Cleaner ) คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าระบบดูดอากาศเข้าตัวเครื่องผ่านตัวกรอง เพื่อดักจับ สิ่งต่างๆที่เสี่ยงต่อโรคภูมิเเพ้และกระทบต่อสุขภาพ เช่น ฝุ่นละออง มลพิษอนุภาคขนาดเล็ก เชื้อโรค (ไวรัส, แบคทีเรีย) กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ แล้วปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาสร้างอากาศที่ดีให้บ้านคุณ โดยแต่ละรุ่นส่วนใหญ่สามารถกรองฝุ่นละอองตั้งแต่ 0.1-0.3 ไมครอน (ไรฝุ่น 250 ไมครอน) ได้ถึง 99% ขึ้นไป ดังนั้นจึงกรองฝุ่นขนาด PM 2.5 ได้แบบไร้ข้อกังวล ส่วนเรื่องขนาดเครื่องเรื่องกำลังทำงาน แต่ละรุ่นมีให้เลือกตั้งแต่ 10-100 ตร.ม.ขึ้นไป ดังนั้นถ้ากำลังเครื่องยิ่งมาก ราคาก็ยิ่งสูงขึ้นตามลำดับ |  |
เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไร?ขนาดเครื่องฟอกอากาศ คำนวนขนาดห้อง แล้วจึงเลือกขนาดเครื่อง เพราะหากซื้อเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กกว่าขนาดห้อง เครื่องจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าเครื่องขนาดใหญ่กว่าห้อง ก็อาจกินไฟได้ ยี่ห้อและราคาเครื่องฟอกอากาศ เป็นเรื่องสำคัญ ยี่ห้อที่ติดอันดับการค้นหาสินค้าบนเว็บไซต์ และเป็นที่นิยมใช้งาน ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศ Sharp,Hitachi,Electrolux,BWELL,Hatari ฯลฯ ซึ่งราคาเครื่องฟอกอากาศมีตั้งแต่ 4,000 - 25,000 บาท | |
 | ระบบการทำงาน - เครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองอากาศได้ดีและรวดเร็ว ควรมีค่า Airflow (ค่าประสิทธิภาพการฟอกอากาศ) ในระดับที่สูง - เครื่องฟอกอากาศที่สามารถผลิตปริมาณอากาศบริสุทธิ์ในบ้านได้จำนวนมากและรวดเร็ว ควรมีค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) หรือ (ค่าประสิทธิภาพการสร้างอากาศบริสุทธิ์) ในระดับที่สูง - ระดับเสียงเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมต่อการใช้งานและการพักผ่อน คือ 30-31 เดซิเบล |
การประหยัดไฟ เบื้องต้นเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยควรเทียบกับยี่ห้ออื่นด้วยว่ามีอัตราการกินไฟเท่าใด และอีกเรื่องที่ต้องพิจารณาคือ “แผ่นกรอง” ควรเลือกแผ่นกรองที่มีความหนาแน่นไม่มากเกินไป สามารถให้อากาศไหลผ่านได้ดี เครื่องก็จะทำงานไม่หนักและประหยัดไฟมากขึ้น เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี? 1. เครื่องฟอกอากาศ SHARP เครื่องฟอกอากาศ SHARP นับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ญี่ปุ่น ที่คนไทยให้ความไว้วางใจเสมอ โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศ ที่มีฟังก์ชั่นพลาสม่าคลัสเตอร์เทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของชาร์ป ที่ฆ่าสารพัดเชื้อโรค พร้อมแผ่นกรอง HEPA อันเลื่องชื่อสามารถดักจับฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% ที่สำคัญเป็นยี่ห้อนิยม บริการหลังการขายดี มีอะไหล่สำรองพร้อม และมีการค้นหาบนเว็บไซต์จำนวนมาก | |
เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่นแนะนำเครื่องฟอกอากาศ SHARP FP-J30TA-B เครื่องฟอกอากาศราคาหลัก 3 พัน แต่ป้องกันฝุ่นได้ดี รุ่นนี้คนนิยมใช้มาก เพราะดีไซน์สวย กระทัดรัด ใช้งานง่าย และเหมาะกับห้องเล็กๆ ประมาณ 23 ตร.ม. แม้อาจดูเป็นเครื่องฟอกอากาศราคาถูก แต่สามารถฆ่าสารพัดเชื้อโรคตลอดจนเชื้อไข้หวัดนกหรือไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุใหม่ |  |
 | เครื่องฟอกอากาศ SHARP KC-G40TA-W 28SQM เครื่องฟอกอากาศราคาไม่เกินหมื่นห้า นำหน้าด้วยดีไซน์ใหม่สวยหรูคู่จอแสดงผลสัมผัสแบบล้ำสมัย โดดเด่นด้วยระบบเซ็นเซอร์ 6 ประเภท สามารถตรวจวัดสภาพแวดล้อมที่ต่างกันได้แม่นยำ เช่น ตรวจจับฝุ่นละอองทั่วไปได้จนถึง 2.5 PM รวมไปถึงตรวจจับการฆ่าเชื้อโรค กลิ่นอับต่างๆ ความชื้น และแสงสว่าง เหมาะกับขนาดห้อง 21-30 ตร.ม. |
2. เครื่องฟอกอากาศ BWELL เครื่องฟอกอากาศ BWELL การันตีชื่อเสียงแบรนด์จากยุโรป ที่เน้นผลิตเครื่องกรองอากาศเป็นหลัก โดยใช้งานแพร่หลายในวงการแพทย์ โรงพยาบาลและหน่วยงานราชการ แม้เครื่องฟอกอากาศราคาอาจสูงกว่ายี่ห้ออื่นไปบ้าง แต่สินค้าดีมีคุณภาพคุ้มค่าสมราคา | |
เครื่องฟอกอากาศ BWELL รุ่นแนะนำเครื่องฟอกอากาศ BWELLCF-8000 เครื่องฟอกอากาศราคาหลัก 3 พัน แต่คุณสมบัตินั้นเกินคาด เพราะสามารถใช้งานได้ทั้งในบ้านและในรถยนต์ ตัวเครื่องควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส พร้อมระบบฟอกอากาศครบวงจร 5 ขั้นตอน ได้ทั้งดูดกลิ่น ฆ่าเชื้อโรค และกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 0.1 ไมครอน และยังปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับ เหมาะกับขนาดห้อง 10 ตร.ม. |  |
3. เครื่องฟอกอากาศ ELECTROLUX เครื่องฟอกอากาศ Electrolux เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟ้ฟ้าเมืองนอกจากสวีเดน ที่ครองใจคนไทยได้เป็นอย่างดี รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเครื่องฟอกอากาศ ที่ผู้บริโภคยังให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ราคาสินค้าจะสูงกว่าคู่แข่งต่างๆ แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและคุณภาพของสินค้า | |
 | เครื่องฟอกอากาศ ELECTROLUX รุ่นแนะนำเครื่องฟอกอากาศ ELECTROLUX EAC415 60SQM เครื่องฟอกอากาศราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท สามารถกรองอากาศได้ดีมีประสิทธิภาพ ดีไซน์สวยทันสมัย พร้อมเทคโนโลยีที่ฆ่าเชื้อโรคต่างๆได้ดี และมีฟังก์ชั่นการทำงานหลากหลาย เช่น ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศ และปรับระดับเสียงได้ 26-55 เดซิเบล แผ่นกรอง Carbon ยังช่วยกำจัดกลิ่นได้ถึง 99% พร้อมแผ่นกรอง HEPA กรองฝุ่นได้ถึง 99.98% เหมาะกับห้องขนาดใหญ่ 60 ตร.ม. |
ทิ้งท้ายหลายข้อสงสัย? แม้ "ซื้อเครื่องปรับอากาศ" รุ่นใหม่ที่มีระบบกรองไรฝุ่นแล้ว แต่หากมีงบประมาณมากพอและเพื่อสุขภาพที่ดี ควร “ซื้อเครื่องฟอกอากาศ” ควบคู่การใช้งานด้วย เนื่องจาก "แอร์" ในหลายๆรุ่นก็ยังไม่มีระบบกรองอากาศได้เหมาะสมและครบเครื่อง ซ้ำยังติดปัญหาเรื่องราคาที่สูงมาก ส่วนการป้องกันฝุ่นละอองนอกบ้านควรหา "หน้ากากกันฝุ่น" มาสวมใส่ โดยเฉพาะ "หน้ากาก N95" ที่สามารถกรอง PM 2.5 ได้ ดังนั้นหากสนใจ"เครื่องฟอกอากาศ โฮมโปร"และ "หน้ากากปิดจมูก" สามารถเลือกซื้อได้ที่โฮมโปรทุกสาขา หรือ สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์โฮมโปร พร้อมมีโปรโมชั่นมากมายและบริการหลังการขายอย่างครบครัน | |
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ
