โฮมกูรู

ล้างแอร์บ้าน ด้วยตัวเองได้แบบมืออาชีพด้วยเทคนิคง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน!

ล้างแอร์บ้าน ด้วยตัวเองได้แบบมืออาชีพด้วยเทคนิคง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน!
ล้างแอร์บ้าน หนึ่งในงานบ้านที่แค่พูดถึงหลาย ๆ คนก็หันหน้าหนีซะแล้ว เพราะการ ล้างแอร์ ถือเป็นงานที่ต้องอาศัยความละเอียดและความระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมไปถึง วิธีล้างแอร์ ที่หากใครไม่รู้จักชิ้นส่วนของแอร์ว่าตรงไหนเป็นอะไรก็อาจจะเกิดความสับสนได้ง่าย ๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าจริง ๆ แล้ว วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง นั้นสามารถทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ลองนำเทคนิค ล้างแอร์บ้าน ที่ HomeGuru นำมาฝากกันในบทความนี้ไปลองทำตามกันเลย

• ล้างแอร์บ้าน ด้วยตัวเองได้แบบมืออาชีพ!

1. ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหนในหนึ่งเดือน 2. ล้างแอร์บ้านด้วย 3 วิธีง่าย ๆ

• ควร ล้างแอร์ บ่อยแค่ไหนในหนึ่งเดือน

สิ่งแรกที่เราควรรู้เกี่ยวกับการล้างแอร์คือเรื่องความถี่ในการล้างแอร์ที่เหมาะสม โดยเฉพาะบ้านไหนที่ใช้แอร์หนัก ๆ ใช้แทบทุกวันยิ่งไม่ควรละเลยเรื่องการดูแลรักษาและทำความสะอาดแอร์เด็ดขาด เพราะหากใช้แอร์ไปนาน ๆ โดยไม่ได้ทำความสะอาดเลยก็จะมีปัญหาเรื่องฝุ่นละออง เพราะเมื่อไหร่ที่เราเปิดแอร์ แอร์จะทำงานโดยการดูดอากาศภายนอกเข้าไปด้านในตัวเครื่องเพื่อหมุนเวียนและพ่นลมเย็นออกมาแทน ดังนั้น หากมีฝุ่นละอองเกาะอยู่ตามตัวเครื่องก็ย่อมทำให้ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเหล่านั้นถูกดูดติดเข้าไปในแอร์ด้วย สุดท้ายก็จะเข้าไปจับตัวสะสมกันอยู่ภายในเครื่อง ทำให้แอร์ระบายความเย็นได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและตัวเครื่องต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้แอร์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง แถมยังกินไฟเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวด้วย! ดังนั้น ก่อนที่สิ่งสกปรกและฝุ่นละอองจะสร้างปัญหาบานปลายจากแค่แอร์สกปรกเป็นแอร์พัง! การ ล้างแอร์ จึงถือเป็นทางออกที่ง่ายและดีที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วช่างแอร์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้มีการล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน เป็นมาตรฐาน แต่บางครั้งเราอาจพบว่าเพิ่งล้างแอร์ไปยังไม่ถึง 6 เดือน แอร์ก็เริ่มจะมีอาการไม่เย็นซะแล้ว กรณีแบบนี้อาจเกิดขึ้นจากแอร์สกปรกเร็วตามปัจจัยของสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไปในแต่ละบ้านนั่นเอง ล้างแอร์บ้าน บ้านไหนที่เปิดแอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งแบบเปิดบ่อย ๆ เปิดนาน ๆ หรือเรียกว่าแอร์เครื่องนั้นทำงานหนักอยู่แทบจะตลอดเวลา ในกรณีนี้ก็แปลว่าขณะที่แอร์กำลังทำงานก็จะมีการดูดเอาอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่องเพื่อหมุนเวียนและพ่นลมเย็นออกมาทุกวี่ทุกวันแบบไม่มีวันหยุด โอกาสที่จะมีสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองเข้าไปสะสมอยู่ภายในเครื่องก็ย่อมต้องมีมากกว่าแอร์ที่นาน ๆ ทีจะได้เปิดใช้งาน จึงไม่แปลกที่เราอาจจะต้องล้างแอร์บ่อย ๆ โดยไม่ต้องรอให้ครบ 6 เดือน อีกกรณีหนึ่งที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองของแอร์ คือ ตำแหน่งที่อยู่อาศัย หรือตำแหน่งที่ติดตั้งแอร์ภายในบ้านนั้นอยู่ในจุดที่มีฝุ่นละอองมากเป็นพิเศษ เช่น ห้องที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ มีรถวิ่งผ่านไปผ่านมาทั้งวัน หรือที่พักอาศัยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรืออยู่ใกล้สถานที่ที่กำลังมีการก่อสร้าง เป็นต้น กรณีที่มีฝุ่นละอองลอยฟุ้งอยู่ในอากาศมากมายตลอดเวลาแบบนี้ย่อมส่งผลต่อแอร์แน่นอน จึงไม่แปลกที่ต้องอาศัยการล้างแอร์ให้บ่อยขึ้นเพื่อดูแลรักษาแอร์ให้พร้อมใช้งานที่สุดนั่นเอง โดยสรุปแล้ว ในสถานการณ์ปกติทั่วไป การ ล้างแอร์บ้าน ก็ควรทำอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน แต่หากปัจจัยแวดล้อมและลักษณะการใช้งานแอร์เป็นอย่างที่กล่าวมาก็ควรล้างแอร์ให้บ่อยขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึง 6 เดือน โดยอาจจะลองสังเกตจากด้านหลังของคอยล์ร้อนที่ติดตั้งไว้นอกตัวบ้าน หากเริ่มเห็นว่ามีฝุ่นจับมากก็ควรล้างทันที อย่าปล่อยให้เกิดการอุดตันจนอากาศไหลเวียนไม่สะดวก เพราะปัจจัยเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้อาจส่งผลกระทบถึงการทำงานของแอร์ในส่วนอื่น ๆ ที่อาจทำให้มีปัญหาตามมาในอนาคตด้วย วิธีล้างแอร์
สเปรย์โฟมล้างแอร์ โฟมทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ สเปรย์โฟมทำความสะอาดแผงคอยล์เย็นและร้อนเครื่องปรับอากาศ

• ล้างแอร์บ้าน ด้วย 3 วิธีง่าย ๆ

ได้ทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยปละละเลยไม่ยอมล้างแอร์กันไปแล้ว เรามาดูเรื่องของ วิธีล้างแอร์ กันต่อเลยดีกว่า โดยก่อนลงมือ ล้างแอร์ ต้องไม่ลืมสับสวิตซ์เบรกเกอร์ไปที่ off ก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัยด้วยนะ!

1. วิธีล้างแอร์ ด้วยแปรงทำความสะอาด

เป็น วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง ในเบื้องต้นที่ค่อนข้างสะดวก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการล้างแอร์ด้วยวิธีอื่น ๆ และยังเหมาะกับคนที่ติดตั้งแอร์อยู่ในตำแหน่งที่ไม่สะดวกต่อการล้างแอร์ด้วยน้ำบ่อย ๆ เช่น ติดตั้งแอร์ในพื้นที่เหนือชั้นหรือตู้บิวท์อินที่อาจจะพองหรือเสียหายได้ง่ายเมื่อถูกน้ำ หรือพื้นที่ที่มีการจัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่อยู่ใต้แอร์ เป็นต้น โดยการเลือกใช้แปรงทำความสะอาดนั้น แนะนำให้ใช้แปรงที่มีขนอ่อนนุ่มหรืออาจจะเป็นแปรงสีฟันก็ได้ ซึ่งใครสะดวกล้างแอร์ด้วยแปรงก็สามารถทำได้โดยเริ่มจากหาผ้าคลุมเฟอร์นิเจอร์และของใช้ใกล้ ๆ เพื่อป้องกันฝุ่น จากนั้นให้เปิดหน้ากากแอร์ออก ใช้แปรงที่เตรียมไว้ไล่ปัดทำความสะอาดตามแนวแผงอลูมิเนียมเบา ๆ เสร็จแล้วสอดมือเข้าไปปัดทำความสะอาดบริเวณพัดลมกรงกระรอกด้านใน แล้วจึงค่อยปัดทำความสะอาดแผงคอยล์ร้อนคอมเพรสเซอร์ด้านนอก สุดท้ายให้ใช้พัดลมเป่า หรือใช้พัดโบกให้ลมลงไปพัดเอาเศษฝุ่นละอองตรงจุดที่ต้องการทำความสะอาดหลุดออกไปจนหมด ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายออกมา เมื่อทำความสะอาดแอร์เสร็จจึงต้องไม่ลืมที่จะทำความสะอาดรอบ ๆ ห้องด้วย

2. วิธีล้างแอร์ ด้วยการล้างน้ำ

เป็น วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง ที่ต้องอาศัยความละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตัวแอร์และบริเวณรอบ ๆ โดยสิ่งที่ต้องเตรียมคือกระบอกฉีดน้ำ หรือจะเลือกใช้กระบอกฉีดน้ำแบบปั๊มแรงดันที่ใช้กับการเกษตรก็ได้ แต่หากใครมีเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงอยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน ส่วน วิธีล้างแอร์ ให้เริ่มจากการนำถุงพลาสติกใบใหญ่ ๆ ที่ไม่มีรอยรั่วหรือฉีกขาดมาคลุมรองใต้ตัวเครื่องก่อน จากนั้นฉีดน้ำด้วยกระบอกฉีดน้ำหรืออุปกรณ์ที่เตรียมไว้ โดยค่อย ๆ ฉีดพรมน้ำไปตามแผงอลูมิเนียมและบริเวณพัดลมกรงกระรอกให้ชุ่ม ทิ้งไว้แบบนั้น 10-15 นาทีโดยประมาณ แต่หากอยากให้คราบสกปรกหลุดร่อนออกง่ายขึ้นก็สามารถผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำสะอาดมาฉีดพรมแทนก็ได้ และหลังจากทิ้งไว้จนครบกำหนดเวลาแล้วก็ให้ใช้น้ำสะอาดฉีดล้างจนคราบสกปรกหลุดออกมา ทิ้งไว้ให้น้ำค่อย ๆ ระบายออกจนเริ่มหมาดแล้วจึงค่อยใช้ลมเป่าทุกส่วนจนแห้งสนิท จากนั้นค่อยจัดการทำความสะอาดแผงคอยล์ร้อนกับใบพัดคอมเพรสเซอร์ด้วยวิธีการเดียวกัน แต่ข้อควรระวังขณะทำความสะอาด คือ ตัวมอเตอร์ของใบพัดคอมเพรสเซอร์ต้องไม่มีรูระบายอากาศให้น้ำเข้าได้ เพราะหากมอเตอร์โดนน้ำก็อาจทำให้อุปกรณ์เสียหาย ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบข้อมูลจากตัวแทนขายหรือผู้ผลิตแอร์รุ่นนั้น ๆ ให้แน่ชัดก่อนลงมือล้างแอร์ด้วยน้ำ

3. วิธีล้างแอร์ ด้วยโฟมหรือสเปรย์โฟม

ถือเป็น วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง ที่ใครก็ทำได้! และเป็น วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง ที่ให้ผลลัพธ์ออกมาสะอาดหมดจดเหมือนมืออาชีพที่สุด เพราะสเปรย์โฟมสำหรับล้างแอร์ส่วนใหญ่นั้นมีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคได้มากกว่า 90% ขึ้นไป แถมยังมีกลิ่นหอมสดชื่นให้เลือกหลากหลายกลิ่นตามความชอบ และสามารถหาซื้อได้ง่ายสุด ๆ ทั้งตามห้างร้านทั่วไปและช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ส่วน วิธีล้างแอร์ ด้วยโฟมนั้นก็ไม่ยากเลย เพราะเป็นวิธีเดียวกันกับการ ล้างแอร์ ด้วยน้ำ เพียงแค่เปลี่ยนจากการใช้น้ำสะอาดมาเป็นการใช้โฟมแทน ซึ่งสิ่งสำคัญคือหลังจากฉีดล้างทำความสะอาดและเป่าจนแห้งแล้ว ให้เปิดพัดลมแอร์ไว้เพื่อช่วยไล่ความชื้นออกมาสักพักจนเครื่องแห้งสนิทเท่านี้ก็เรียบร้อย แต่ถ้าใคร ล้างแอร์ เรียบร้อยแล้วยังรู้สึกว่าไม่สะอาด หรือมีกลิ่นเหม็นกวนใจ ลองคลิกอ่าน แอร์มีกลิ่นอับ กลิ่นเปรี้ยวกวนใจ ล้างแอร์เท่าไหร่ก็ไม่หาย ทำไงดี? รับรองปัญหานี้หายเป็นปลิดทิ้ง! ล้างแอร์บ้าน
ถุงรองล้างแอร์ บริการล้างแอร์ บริการล้างแอร์
เห็นไหมว่าการ ล้างแอร์บ้าน ไม่ยากอย่างที่คิดเลยถ้ามี วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง ที่ถูกต้องตามขั้นตอนแบบที่ HomeGuru นำมาฝากกัน เชื่อเลยว่ามือใหม่แค่ไหนก็ทำได้ ซึ่งถ้าใคร ล้างแอร์ ด้วยตัวเองเป็นแล้วก็อย่าลืมหมั่นตรวจเช็ค ดูแลและทำความสะอาดแอร์กันบ่อย ๆ เพราะนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์แล้วยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกหลายเท่าเลย แต่หากใครที่ไม่มีเวลาล้างแอร์ด้วยตัวเอง หรือต้องการบริการล้างแอร์โดยช่างมืออาชีพที่รับประกันความสะอาดหมดจด พร้อมมาตรฐานการบริการที่ไว้วางใจได้ก็สามารถติดต่อบริการล้างแอร์กับ Home Service by HomePro ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลย
สั่งซื้อบริการ/สอบถามเพิ่มเติม/ปรึกษาฟรีได้ที่โฮมโปรทุกสาขา Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice Call Center : 1284 Mobile app : https://bit.ly/3hTLsQJ โปรโมชั่นเพิ่มเติมจาก Home Service : https://bit.ly/3Bj8Yzs